3 ข้อผิดพลาดหลักของระบบค่าตอบแทนนักขาย
การจ่ายค่าตอบแทนให้นักขายถือเป็นปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งถึงความสำเร็จในการบริหารทีม
นอกเหนือจากฐานเงินเดือนหรือสวัสดิการทั่วไป สิ่งที่เกี่ยวกับระบบค่าตอบแทนของนักขายมากสุดก็คือค่าคอมมิชชั่น
มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้จะมาพูดถึงความผิดพลาดหลักที่ผู้บริหารหลายที่เผลอทำไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามเกี่ยวกับระบบค่าตอบแทนนี้
เพื่อไม่ให้คุณเผลอผิดพลาดในเรื่องเบสิคที่ว่าดังกล่าว มาดูกันเลยครับว่าข้อควรระวังในเรื่องนี้มีอะไรกันบ้าง
1) ความซับซ้อน
กฏเบสิคข้อหนึ่งของการจัดการเรื่องระบบค่าตอบแทนหรือค่าคอมมิชชั่นคือ “ทุกอย่างต้องไม่ซับซ้อน”
ลองดูครับว่าระบบค่าตอบแทนของคุณมีสิ่งเหล่านี้ครบหรือไม่
- โปร่งใสและนักขายสามารถคำนวณค่าคอมมิชชั่นได้เอง
- สามารถคำนวณโดยใช้ระบบได้ ไม่ต้องคิดแบบ manual ซับซ้อน
- ไม่ควรมีงานแอดมินเข้ามาเกี่ยวข้องมากนักในการคำนวณค่าคอมมิชชั่น
- สามารถอธิบายและเข้าใจได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเปิดคู่มือและท่องจำอะไรทั้งนั้น
ถ้าคุณขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ผมขอฟันธงเลยว่าระบบการคำนวณคอมมิชชั่นของคุณผิดแน่นอน
เปรียบเทียบเหมือนเกมบาสเกตบอล
กฏง่ายๆคือใครเอาลูกลงห่วงก็จะได้แต้ม โดยแต้มนั้นมีแค่ 2 แบบ คือ 2 แต้มกับ 3 แต้ม
ยิงใกล้ได้ 2 แต้ม ยิงไกลได้ 3 แต้ม ง่ายๆตามนี้
แต่ถ้าเปลี่ยนกฏ เช่นถ้ายิงไกลได้ 3 แต้ม แต่ถ้าไกลมากได้ 4 แต้ม ถ้ากระโดดเอาลูกยัดห่วงสองมือได้ 2 แต้มครึ่ง ถ้ายิงใต้แป้นได้แค่ 1 แต้มครึ่ง ถ้าครึ่งสนามได้ 5 แต้ม ถ้าตรงมุมขอบๆได้ 2 แต้มครึ่ง อะไรประมาณนี้
แค่อ่านก็งงแล้วใช่หรือไม่ครับ
สุดท้ายนักกีฬาก็จะคิดว่า “จำไมได้หรอกว่าต้องยิงตรงไหนยังไง เอาเป็นว่ายิงๆไปก่อนแล้วกัน ได้กี่แต้มก็เท่านั้นแต้มแหละ”
และสุดท้ายถ้าไม่แน่นใจนักกีฬาอาจประท้วงและขอดูคำตัดสินใจเพราะเค้าไม่รู้ว่าให้คะแนนถูกจริงหรือไม่
หนักไปกว่านั้น การคำนวณแต้มให้ถูกต้องก็ต้องมีคณะกรรมการทีมใหญ่มากๆที่ต้องคอยเช็คความถูกต้องตรงนี้
ไม่เช่นนั้นการตัดสินก็จะออกมาไม่ยุติธรรมอีก
เหตุการณ์ฟังดุคุ้นๆหรือไม่ครับ
นี่คือการเปรียบเทียบที่ผมอยากอธิบายให้เห็นภาพ
บางครั้งอย่ากังวลจนเกินไปและทำให้การคำนวณมีความซับซ้อนโดยใช่เหตุ
2) เน้นประหยัดต้นทุนมากกว่ากระตุ้นยอด
อีกหนึ่งหลุมพรางที่สำคัญคือ ระบบคอมมิชชั่นถูกออกแบบมาในอารมณ์ที่กลัวจ่ายเยอะเกินไป
นี่ไม่ใช่แนวคิดที่ผิด ไม่ผิดที่จะวางแผนการจ่ายให้รอบคอบ แต่ไม่ใช่รอบคอบในมุมที่จะพยายาม “ลดต้นทุนมากกว่า”
แนะนำว่าให้วางแผนเพื่อเน้นกระตุ้นยอดเป็นหลักโดยอาจมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- ยิ่งทำเกินเป้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งจ่ายเยอะเท่านั้น (ภายใต้เงื่อนไขที่การตั้งเป้ายุติธรรมและสมเหตุสมผล)
- จ่ายมากเป็นพิเศษสำหรับสิ่งที่ทำยาก เช่นจ่ายคอมมิชชั่นในการปิดลูกค้าใหม่มากกว่ายอดจากลูกค้าเดิมที่มีการซื้อซ้ำ
- ให้โบนัสพิเศษสำหรับการขายสินค้าที่ได้กำไรสูง เป็นต้น
คำถามคือ ภาพรวมของระบบคอมมิชชั่นของเราได้สื่อให้เห็นการกระตุ้นลักษณะนี้บ้างหรือไม่
ถ้าไม่มีเลย นี่อาจจะเป็นความผิดพลาดข้อหนึ่งในระบบการจ่ายของเรา
3) ไม่ได้สนับสนุนคนเก่งมากพอ
ในกรณีนี้ ที่แย่ที่สุดคือคนที่ผลงานดี ขายเก่ง พยายามมากกว่าคนอื่น กลับได้ค่าคอมมิชชั่นน้อยกว่า
ยกตัวอย่างเช่น เรามอบลูกค้าบางรายที่เป็นรายใหญ่และมียอดซื้อซ้ำประจำให้กับนักขายบางคนที่ไม่ได้เก่งมากนัก
ปรากฏว่าลูกค้ารายนั้นมีการซื้อขายกับเราเพิ่มทั้งๆที่นักขายอาจจะไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย
กลายเป็นว่าได้ยอด “นอนมา” ที่เป็นกึ่งๆส้มหล่น
ในขณะที่คนอื่นที่อาจจะเก่งกว่า ออกแรงเยอะกว่า พยายามากกว่า เช่นปิดลูกค้าใหม่ได้ในจำนวนที่เยอะกว่า กลับกลายเป็นได้เงินน้อย
สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้คือ “การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษหรือ incentive”
ยกตัวอย่างเช่นมี Sales Competition หรือการแข่งขันการขายอะไรบางอย่าง
คนที่ชนะหรือทำผลงานได้ดีกว่าจะได้ค่าตอบแทนพิเศษขึ้นกับผลงานการแข่งขันที่ว่านั้น
และรางวัลหรือค่าตอบแทนพิเศษนั้นต้องมีนัยสำคัญและน่าจูงใจ
ถ้าทำเช่นนี้ได้จะทำให้คนเก่งหรือคนที่ตั้งใจยิ่งพยายามมากกว่าเดิม
นอกจากนั้นเรายังสามารถดูได้เลยว่าใครเป็นคนที่กระตือรือร้นหรือมีผลงานที่โดดเด่นมากกว่าคนอื่นอย่างแท้จริง
นี่อาจจะเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งในกรณีที่บริษัทต้องการคัดคนเก่งเพื่อโปรโมทภายในองค์กร
บทสรุป
มีข้อผิดพลาดหลักๆ 3 ข้อที่หลายองค์กรเผลอทำในการวางแผนเรื่องระบบค่าตอบแทนให้กับทีมขาย
ข้อแรกคืออาจมีรายละเอียดที่ซับซ้อนเกินไป
ข้อสองคือเน้นประหยัดต้นทุนมากกว่าการกระตุ้นให้เกิดยอดขาย
ข้อสุดท้ายคือระบบค่าตอบแทนนั้นไม่ได้สนับสนุนให้คนเก่งมีรางวัลที่จูงใจหรือโดดเด่นมากพอ
ซึ่งทั้งหมดนี้ ถ้าไม่ได้แก้ไขหรือเผลอทำผิดพลาดก็จะเกิดปัญหาตามมาต่อผลงานการขายอย่างแน่นอน
สำหรับองค์กรใดที่ต้องการที่ปรึกษาสำหรับการวางระบบค่าตอบแทนทีมขายสามารถติดต่อ Sales101 ได้ทันที
เรามีพิมพ์เขียวที่คำนวณวัดผลได้ ซึ่งการช่วยออกแบบระบบค่าตอบแทนของเราจะช่วยให้องค์กรประหยัดเวลาและได้วิธีการที่ถูกต้องที่สุด
มูลค่าความเสียเวลาที่ต้องงมเรื่องนี้เอง รวมถึงมูลค่าความผิดพลาดจากการวางระบบค่าตอบแทนที่ผิดนั้นน่าจะมีมูลค่าสูงกว่าค่าที่ปรึกษาหลักหมื่นที่เสียให้เรา
ลองติดต่อเมื่อเพื่อพูดคุยรายละเอียดเบื้องต้นก่อนได้เลย
เพราะคำแนะนำของเรานั้นอาจช่วยปลดล็อกเรื่องต่างๆได้มากกว่าที่คุณคิดก็เป็นได้ครับ