Sales Cycle คือระยะเวลาประมาณการที่ใช้ในการปิดการขาย

ยกตัวอย่างเช่น ถ้า Sales Cycle ของคุณอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน 

 

นั่นแปลว่าตั้งแต่เริ่มติดต่อลูกค้าจนปิดการขายได้นั้น คุณต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 เดือนกว่าที่การขายจะสะเด็ดน้ำ

ส่วนใหญ่แล้วการขายงานเข้าองค์กร (B2B) จะมี Sales Cycle ที่ยาวกว่าการขายให้บุคคล (B2C) พอสมควร

 

ยิ่งถ้างานไหนที่ Sales Cycle ยาวแต่คุณวางแผนไม่ดี โอกาสจะล้มเหลวมีสูงมาก

ในบทความนี้จะมามอบ How To การวางแผนให้กับคุณสำหรับการขายงานที่ Sales Cycle ค่อนข้างยาว

 

มาติดตามดูกันครับว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

1)ห้ามหยุดหาลูกค้าใหม่

กฏข้อแรกในการขายที่มี Sales Cycle ค่อนข้างยาวคือ “ห้ามหยุดหาลูกค้าใหม่เด็ดขาด”

บางคนกะว่ายอมทุบหม้อข้าว

 

กล่าวคือวัดดวงกันไปเลยกับลูกค้ารายใหญ่ๆแค่ 1-2 ราย

เรียกว่าทุ่มเทโฟกัสสุดๆกับลูกค้าที่ว่าดังกล่าว

 

กะว่าถ้าปิดได้ก็กินยาว ถ้าปิดไม่ได้ก็ยอมแพ้ลาออกกันไปเลย เรียกว่าทุ่มเทแล้วคุ้มค่าโดยเฉพาะถ้าปิดได้

กรณีนี้จริงอยู่ว่าคุ้ม อันนี้ไม่เถียง

 

แต่ถ้าคุณปิดได้แล้วมีลูกค้าอยู่ไม่กี่ราย วันใดที่ลูกค้าเหล่านั้นมีปัญหาหรืองอแงขึ้นมาคุณจะงานเข้าเอาง่ายๆ

เผลอๆบางคนพอลูกค้าหลุดไปรายนึงก็แทบจะปิดพอร์ตลาออกกันไปเลยทีเดียว

 

เพราะแค่นึกถึงว่าเราต้องออกแรงอีกเท่าไหร่เพื่อจะหารายอื่นมาทดแทนเจ้าที่หลุดไปก็ท้อแทบขาดใจ

นี่คือสาเหตุที่คุณต้องไม่หยุดหาลูกค้าใหม่มาเติมตลอดเวลาแม้วันนี้จะมีลูกค้านอนกินอยู่กลุ่มหนึ่งในมือแล้ว

 

และอย่าลืมข้อเท็จจริงที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องเวลา

ถ้าคิดจะเริ่มหาบางครั้งก็ไม่ทันเพราะกว่าจะปิดได้

 

แต่ถ้าคุณมีวินัยมากพอและพยายามติดต่อลูกค้าใหม่ถี่ถึงขั้นทุกอาทิตย์ (หรือทุกวัน) อันนี้ก็การันตีได้เลยว่าโอกาสรอดสูงมาก

ดังนั้นถ้าจะถามผมว่าใครน่าจะอยู่รอดในการขายแบบ Sales Cycle ยาวๆผมก็จะต้องขอดูกิจกรรมการติดต่อลูกค้าใหม่ที่ว่านี้ก่อนเลย

 

ใครที่พยายามติดต่อลูกค้าใหม่น้อย ผมฟันธงเลยครับว่าในระยะยาวรอดยาก

2)Track Sales Cycle

แปลง่ายๆว่า “คุณต้องจดสถิติ”

สิ่งที่แนะนำให้จดมีดังนี้

 

  • แต่ละสัปดาห์ติดต่อไปกี่ราย
  • มีกี่รายที่มี Potential
  • เจ้าที่มี Potential เราติดตามไปกี่รอบ
  • สุดท้ายปิดการขายได้กี่ %
  • ใช้เวลานานแค่ไหนในการปิดแต่ละราย

 

เชื่อหรือไม่ครับ แค่คุณจดรายละเอียดสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา เปอร์เซ็นต์ปิดการขายของคุณจะสูงขึ้น และ Sales Cycle จะสั้นลง

แค่นี้จริงๆครับ

 

สาเหตุที่ซ่อนอยู่คือ “คุณจะรู้ความเป็นไป”

และการที่คุณรู้ความเป็นไปในการขายของคุณนี่แหละที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผลงานดีขึ้น

 

เพราะคุณจะเห็นว่าบางช่วงเริ่มมีลูกค้าที่ติดต่อน้อยเกินหรือบางช่วงเริ่มลืมที่จะติตตาม 

การที่เห็น “ความเป็นไป” เหล่านี้จะทำให้คุณนึกกลยุทธ์ออกโดยอัตโนมัติ

 

เช่นต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ลืมติดตาม ต้องหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มจากที่ไหน ต้องทำอย่างไรจึงจะปิดได้เร็วขึ้น เป็นต้น

3)หา Trigger + Follow up

Trigger คือ “ตัวกระตุ้น” เพื่อทำให้การขายของคุณมีความคืบหน้า

ยกตัวอย่างเช่น

 

  • คุณจะเอาสินค้าตัวอย่างมาทดลองให้ลูกค้าดู
  • คุณช่วยลูกค้าเข้าไปตรวจดูโรงงานและดูว่าถ้าใช้บริการของเราจะสามารถลดต้นทุนได้ในจุดไหนบ้าง
  • คุณออกแบบสินค้าให้ลูกค้าดูเป็นตัวอย่างในรูปแบบ 3D เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจ

 

Trigger ที่ดีควรมีข้อดังต่อไปนี้

 

  1. ลูกค้าต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นกับเรา

      2.ต้องเป็นประโยชน์กับลูกค้า

      3.ลองดูตัวละครหลายๆตัว กล่าวคือไม่ใช่ทำให้กับคนที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อแต่เพียงอย่างเดียว

 

และใช้ Trigger ที่ว่าดังกล่าวเป็นหัวใจหลักในการติดตามและทำให้การขายมีความคืบหน้า

ในทางกลับกัน นักขายส่วนใหญ่มักจะทำผิดพลาดในเรื่องนี้อยู่ 2 ประเด็นคือ

 

  1. ตั้งรับอย่างเดียว

กล่าวคือนำเสนอให้ลูกค้าไปและรอลุ้นให้ลูกค้าเป็นฝ่ายติดต่อกลับมา

ถ้าลูกค้าไม่ติดต่อกลับมาก็ทึกทักเอาเองว่าคงไม่สนใจในสิ่งที่เราขาย

 

ดังนั้นก็จบลงโดยการยอมแพ้และไม่มีการติดตามต่อ

 

       2. จิก

กล่าวคือมีการติดตามเชิงรุก แต่ไม่ได้มี Trigger ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ

และการติดตามแต่ละครั้งเป็นแค่การ “จิก” เพื่อปิดการขายเท่านั้น

 

ดังนั้นต้องหา Trigger ให้เจอและมีการติดตามอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้นสำหรับการขายที่มี Sales Cycle ที่ยาว

 

บทสรุป

การขายงานเข้าองค์การในบางครั้งนั้นจะมี Sales Cycle ที่ค่อนข้างยาว

มี 3 อย่างที่แนะนำให้ทำเพื่อให้ปรับกลยุทธ์เข้ากับลักษณะการขายอย่างที่ว่าอย่างมีประสิทธิภาพ

 

อย่างแรก แนะนำให้คุณหาลูกค้าใหม่มาเติมตลอดเวลา อย่าหยุดเด็ดขาด

อย่างที่สอง ให้จดสถิติการขายเอาไว้อย่างละเอียดเพื่อให้เรารู้ความเป็นไปและปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที

 

และอย่างสุดท้าย ต้องหาตัวกระตุ้นลูกค้าเพื่อให้การขายมีความคืบหน้าและติดตามอย่างสม่ำเสมอ

สุดท้ายคุณจะเอาตัวรอดได้จากการขายแบบ Sales Cycle ยาวๆได้แน่นอนครับ